watch

watch
watch

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

7 ต้องห้ามเพื่อพิทักษ์นาฬิกาของคุณ



   การดูแลรักษานาฬิกามีหลายวิธีแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของนาฬิกาแต่ละเรือน เอาเป็นว่าผมขออนุญาติป้องกันนาฬิกาของคุณล่วงหน้าพร้อมกับแนวทางการดูแล รักษานาฬิกาด้วย "7ต้องห้ามเพื่อพิทักษ์นาฬิกา" ที่น่าจะครอบคลุมทั้งวิธีการป้องกันและการดูแลรักษาได้  อาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมดแต่ผมว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ          

   1  อย่าคาดหวังว่านาฬิกาทุกเรือนจะสามารถกันน้ำได้  ถึงแม้ว่านาฬิกาสปอร์ตที่คุณมีอาจระบุคุณสมบัติกันน้ำบนหน้าปัดหรือฝาหลังก็ ตาม  แต่ก็ต้องดูขอบเขตความสามารถของมันด้วย  บางครั้งมันอาจช่วยได้แค่กันฝุ่น  กันเหงื่อ  หรือกันน้ำฝนได้เท่านั้น  และอาจกันน้ำได้ในต่างสถานการณ์กันด้วย เช่น  นาฬิกาที่ระบุว่ากันน้ำลึก 30 เมตร ทำได้เพียงป้องกันน้ำเข้าจากการล้างมือ  ไม่เหมาะที่จะใส่ลงว่ายน้ำ  หรือถ้าเป็นนาฬิกากันน้ำลึก 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้แต่ต้องระดับตื้นๆ  ถ้าคุณชอบดำน้ำหรือเล่นกีฬาทางน้ำอื่นๆต้องใช้นาฬิกาที่กันน้ำได้ลึกตั้งแต่ 200 เมตร จึงจะสามารถรับแรงกระแทกของน้ำขณะเล่นกีฬาได้  อย่างไรก็ตามนักดำน้ำที่เข้มงวดก็ควรใช้นาฬิกาที่ออกแบบและผลิตออกมาเพื่อ การดำน้ำโดยเฉพาะดีกว่า

   2  อย่าใส่นาฬิกากลไกจักรกลเข้าห้องซาวน่าเป็นเวลานานๆเพราะจะทำให้น้ำมันหล่อ ลื่นและน้ำมันต่างๆที่อยู่ภายในนาฬิกาข้นและเหนียวขึ้นส่งผลต่อการทำงานและ ความเที่ยงตรงของนาฬิกาในอนาคต  และถือเป็นการทารุณกรรมนาฬิกามากที่สุด คือ ใส่นาฬิกาเข้าห้องซาวน่าแล้วออกมาอาบน้ำเย็นเฉียบทันที  หรือการใส่นาฬิกาออกอาบแดด  แล้วกระโจนลงสระว่ายน้ำต่อ  จริงๆแล้ววิธีเหล่านี้มีผลดีต่อระบบร่างกายของมนุษย์ แต่เป็นหายนะสำหรับนาฬิกา เพราะกลไกนาฬิกาไม่เหมือนคน มันเกลียดการเปลี่ยนแปลงอณุหภูมิอย่างฉับพลัน เช่น จากอณุหภูมิ 80 องศาเซลเซียส(ซึ่งเป็นอุณหภูมิภายในนาฬิกาเมื่ออยู่ใต้แสงอาทิตย์) ปรับทันทีมาเย็นเฉียบที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซสเซียส เป็นต้น

   3  อย่าให้สายหนัง สายพลาสติก หรือสายยางของนาฬิกาสัมผัสกับสเปรย์กันยุง หรือครีมทากันแดด เพราะสายนาฬิกาจะเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควร
โดยเฉพาะสาย พลาสติกและสายยางชั้นดีทั้งหลายโดนเมื่อไรสีจะเปลี่ยนเป็นสีซีดจางและเปราะ ง่ายขึ้นหลายเท่า คลอรีนในสระว่ายน้ำก็เป็นศัตรูตัวฉกาจ
ที่สามารถสร้าง ความเสียหายให้กับสายนาฬิกาได้เช่นกัน  แม้จะเป็นสายสเตนเลสสตีล ที่ควรทำความสะอาดด้วยน้ำบริสุทธิ์ทันทีที่ขึ้นจากสระครับ

   4  อย่าพยายามซ่อมนาฬิกาควอตซ์หรือนาฬิกาจักรกลด้วยตัวคุณเองเลยครับ  ขนาดช่างซ่อมนาฬิกายังต้องใช้เวลาและประสบการณ์การเรียนรู้และ
ศึกษาการ ซ่อมนานหลายปี  ถ้านาฬิกามีปัญหานำไปให้ผู้เชี่ยวชาญซ่อมดีกว่า  และควรส่งนาฬิกาเข้าตรวจเช็คอย่างน้อยทุก 3-4ปี แบบเดียวกับที่ดูแล
รักษา รถเป็นประจำนั่นแหละ  เวลาที่คุณส่งนาฬิกาไปยังศูนย์ซ่อม  ช่างอาจเปลี่ยนชิ้นส่วนที่หมดอายุและชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนให้ทำความ สะอาด
และปรับอัตราการเดินของกลไก  รวมทั้งจะช่วยขัดตัวเรือนนาฬิกาให้ดูใหม่เหมือนเพิ่งแกะออกจากกล่อง  ข้อสำคัญคือ เลือกศูนย์ที่ไว้ใจได้และมีมาตราฐาน
พร้อมรับประกันให้คุณด้วยไม่เช่นนั้นคุณอาจได้อะไหล่ปลอมใส่ในนาฬิกาแทนอะไหล่ที่ไม่เสีย (แถมยังราคาดี) ได้ง่ายๆ

     5  อย่าใส่นาฬิกากลไกจักรกลลงเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่มีการกระแทกจนเกินไป เช่น ตีสควอช หวดเทนนิส ฟาดคริคเก็ต และหวดวงสวิงลูกกอล์ฟ หรือ ขี่จักรยานเสือภูเขาบนพื้นถนนที่ขรุขระมากๆเป็นเวลานานๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงไว้เป็นดี เพราะศัตรูตัวฉกาจของนาฬิกาจักรกลคือการถูกแรงสั่นสะเทือนซ้ำๆ หรือถูกกระแทกอย่างแรง แม้จะมีระบบกันกระเทือนแต่นานไปก็ต้านทานไม่ไหวเหมือนกัน ถ้าชอบเล่นกีฬาที่ใช้แรง แนะนำให้ใส่นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อกีฬาประเภทนั้นๆดีกว่า หรือถ้าจะให้ดีกว่านี้ ใส่นาฬิกาสปอร์ตควอซ์เลยครับ ปลอดภัยไร้กังวลและไม่เสียดายทีหลังด้วย

   6  อย่าคิดว่านาฬิกากลไกจักรกลที่มีระบบปฏิทินตลอดชีพไม่จำเป็นต้องไขลานเพราะ ฟังก์ชันปฏิทินที่อยู่ได้นานเป็นเดือนๆหรือเป็นปีๆ โดยไม่ต้องปรับ
เพราะ ถ้าไม่มีพลังงานคุณก็ต้องมาเสียเวลานั่งปรับอีกนั่นแหละ อีกอย่างถึงจะเป็นปฏิทินตลอดชีพ ก็ยังต้องปรับในวันที่ 1 มีนาคม 2100  ตามกฎปีอธิกสุรทิน 400ปี ถ้านาฬิกาปฏิทินตลอดชีพของคุณเป็นนาฬิกาจักรกลและหยุดเดินไปแล้ว คุณไม่ควรปรับตั้งเวลาใหม่และไม่ต้องปรับปฏิทิน  ในช่วงระหว่างเวลา 4 ทุ่มถึงตี 2 (22.00 - 02.00) เพราะอาจทำลายระบบปฏิทินของนาฬิกาได้ และถ้าไม่ได้ใส่นาฬิกาติดข้อมือทุกวัน ลงทุนซื้อกล่องหมุนนาฬิกาที่ใช้พลังแบตเตอรี่มาช่วยไขลานนาฬิกาให้เดินอยู่ ตลอดเวลาดีกว่าครับ  ศึกษาวิธีหมุนของตู้ด้วยก็แล้วกันจะได้ใช้อย่างเหมาะสมกับนาฬิการาคาแพงแต่ ละรุ่นของคุณ  
           
   7  อย่าคิดว่าสายหนังคือสายที่คงทนผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า สายนาฬิกาที่ทำจากหนังหลากหลายมากมาย เช่น หนังจระเข้ ไม่ควรใส่ทุกวัน
ปล่อย ให้มันได้พักเพื่อการคลายตัวและคืนรูป และปล่อยให้ความชื้นที่สายหนังรับมาจากข้อมือระเหยไปให้หมดก่อนจะนำมาใส่ ใหม่ และแม้ว่าสายหนังจะแปะป้าย
"กันน้ำได้"  ก็ไม่ควรใส่อาบน้ำหรือใส่นอนอยู่ดี ส่วนสายโลหะหรือสายทองประเภทต่างๆ ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันเช็ดเอาฝุ่นและ
คราบสกปรกออกก่อนที่ฝุ่นจะติดแน่นเกินไป  โดยเฉพาะคราบที่ฝังตัวอยู่ตามข้อต่อสาย ตัวดีนักเชียว
                                                                                           

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ Breitling


ประวัติ Breitling

  
            ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อเมือง แซง เอเมียร์ (St. Imier) ใกล้เทือกเขาจูร่า (Jura)เซอร์แลนด์ ลีออง ไบร์ทลิ่ง (Leon Breitling) ริเริ่มโรงงานผลิตนาฬิกาขึ้นมาด้วยเป้าหมายเพียงประการเดียวคือ สร้างสรรค์นาฬิกาจับเวลาที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมของโลก












ก้าวสู่โลกแห่งการบิน

    ในปี ค.ศ. 1884 ช่วงเวลาที่ Leon Breitling เริ่มประดิษฐ์นาฬิกาจับเวลาภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘ไบร์ทลิ่ง’ (Breitling) เป็นช่วงเดียวกับการพัฒนาอากาศยาน ดังนั้น อุปกรณ์จับเวลาที่ได้รับการประดิษฐ์ขึ้น จึงถูกนำไปใช้กับเครื่องบินแบบต่างๆ และด้วยคุณภาพที่เป็นเลิศ ทำให้เครื่องมือจับเวลาของ Breitling ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนโรงงานผลิตนาฬิกาเล็กๆ ของผู้ก่อตั้งต้องขยายกิจการและย้ายไปยัง ลา โชซ์-เดอ-ฟองด์ (La Chaux-de-Fonds) อันเป็นศูนย์กลางการผลิตนาฬิกาชื่อดังของโลก






วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 อันดับนาฬิการาคาแพงที่สุดในโลก

1. The Patek Caliber 89 - $5,120,000



4. The Breguet Marie Antoinette – $XX,000,000

6. Rolex Submariner – $234,000


7. Vacheron Tour de l’Ile – $1,250,000


8. AP Royal Oak Grande Complication – $560,000

9. Richard Mille Tourbillon – $525,000


10

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

History





Giovanni Panerai (1825-1897), founder of the family business, opens the first watchmaker's shop in Florence on the Ponte alle Grazie and establishes contact with the most prestigious and longest established Swiss watch manufacturers.
Giovanni is succeeded by his son, Leon Francesco.